ข่าวสารบัญชี - การเงิน - ภาษี |
สรรพากรตะลึง!! โกงภาษีทำเป็นขบวนการ
นายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ตรวจสอบการขอคืนภาษีทางอินเทอร์เน็ตในปีนี้ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่ายังมีการขอคืนภาษีเป็นทุจริตอยู่ แต่กลุ่มมิจฉาชีพได้เปลี่ยนวิธีการรูปแบบใหม่ ที่เน้นการอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายมากขึ้น ด้วยการสร้างรายจ่ายเทียม เพื่อขอจ่ายภาษีน้อยลง ซึ่งต่างจากการทุจริตในปีก่อนหน้าที่นำเอาบัตรประชาชนของสาวโรงงานต่าง ๆ มาขอคืนภาษีในจำนวนไม่มากนัก ซึ่งกรมได้ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจจับดำเนินคดีแล้ว ปีนี้ที่เราเจอ ไม่ใช่กลุ่มสาวโรงงาน แล้ว มีการไปหลอกคนมาใหม่ โดยต้นแก๊งจะมีชื่อจดทะเบียนนิติบุคคลอยู่ เรียกว่าเป็นขบวนการขอคืนภาษีเป็นเท็จที่อาศัยชั้นเชิงมากขึ้น ใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายโดยสร้างรายจ่ายเทียม ด้วยการไปซื้อสำเนาบัตรประชาชนจากร้านค้าขายโทรศัพท์เคลื่อนที่เพียงชื่อละ 10 บาทที่แม้จะคาดหน้าและเขียนว่าใช้เพื่อการซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่แล้วก็ตาม แต่แก้ไขเอาชื่อ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชนไป แล้วทำเป็นว่ามีการจ่ายเงินให้บุคคลเหล่านี้ แต่ จริง ๆ แล้วไม่ได้จ่ายจริง และมีการออกใบหัก ณ ที่จ่ายให้ด้วย ซึ่งเรากำลังไล่ตามอยู่ นอกจากนี้ ยังมีอีกกลุ่มคือ พวกเป็นคณะบุคคล หรือบริษัทที่ทำเรื่องว่าได้จ่ายเงินให้พนักงาน คนงาน และได้หักภาษี ณ ที่จ่าย แต่ไม่ได้ให้คนเหล่านี้มาขอคืน เพียงแต่แอบเอาชื่อไปใช้เฉย ๆ เพื่อสร้างรายจ่ายให้มีมากขึ้น จะได้เสียภาษีนิติบุคคลน้อยลง บางบริษัทอาจไม่ได้ทำธุรกิจจริง ซึ่งพบว่าทำลักษณะนี้มากเช่นกัน แต่ความจริงไม่ได้มีเงินจ่ายมากขนาดนั้น กรมจะตรวจลึกรายละเอียดอย่างจริงจัง อาทิ ดูสถานที่ตั้งบริษัท ดูว่าจ่ายจริงหรือไม่ ใกล้เคียงกับที่ขอคืนภาษีหรือไม่ ทำธุรกิจอะไร กรมจะตรวจรายละเอียดลึกลงไปถึง รายชื่อพ่อ แม่ ลูก ที่จดทะเบียนเป็นคณะบุคคลด้วย หากคณะบุคคลมีเงินได้จากค่าเช่า ก็ยังไม่ผิดปกติ แต่ที่พบคือ เป็นเครือข่าย มีคนหนึ่งอยู่ในคณะบุคคลเป็น 100 คณะ แล้วกระจายฐานภาษีมา เพื่อไม่ต้องเสียภาษี เพราะได้คืน ซึ่งปีนี้ตรวจพบคณะบุคคลลักษณะนี้กว่า 200-300 กลุ่ม มีการขอคืนภาษีมากกว่าหลักสิบล้านบาทแล้ว จากปีก่อนขอคืนถึง 45 ล้านบาท กรมจะระงับการคืนภาษีไว้ก่อน และส่งเรื่องให้สรรพากรพื้นที่ สรรพา กรภาคไปตรวจสอบต่อไป นายศานิต กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบแล้ว ดูเหมือนว่า มีสำนักงานบัญชีเป็นผู้คิดวิธีการให้ ดังนั้น กรมก็จะไปตรวจสอบถึงสำนักงานบัญชีต่าง ๆ ด้วย อนาคตจะเสนอให้แก้กฎหมายเพื่อไม่ให้มีการจัดตั้งคณะบุคคล เพราะเป็นช่องว่างทางกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมากฎหมายไม่ได้ระบุชัดเจน เพียงแต่ถือปฏิบัติกันมา สำหรับยอดผู้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีผ่านทางอินเทอร์เน็ตในปีงบ 51 นั้นมีผู้ยื่นแบบทั้งหมด 69% จากจำนวนผู้ที่เสียภาษีทั้งหมด ลดลง 700,000 ราย เมื่อเทียบกับปี 50 ที่มียอดผู้ยื่นแบบผ่านทางอินเทอร์เน็ต 73% เนื่องจากติดปัญหาเรื่อง พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ทำให้มีปัญหาในขั้นตอนของการลงทะเบียนมาก จึงเข้าระบบของกรมสรรพากรได้ยากขึ้น และมียอดขอคืนภาษี 12,000 ล้านบาท
|